วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

หน่วยความจุ หน่วยความจำ หน่วยความเร็วของคอมพิวเตอร์

บิต (Bit) Binary Digit เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของข้อมูลที่ใช้อยู่ในคอมพิวเตอร์
ไบต์ (Byte) ตัวเลขจำนวน 8 บิต จะรวมกันเข้าเป็น 1 ไบต์
กิโลไบต์ (Kilobyte) ใช้ย่อว่า KB โดย 1 KB มีค่าเท่ากับ 1,024 ไบต์
เมกะไบต์ (Megabyte) ใช้ย่อว่า MB โดย 1 MB มีค่าเท่ากับ 1,048,576 หรือ (1,024 x 1,024 ) มักใช้ในการวัดหน่วยความจำหลัก (RAM)
กิกะไบต์ (Gigabyte)  ใช้ย่อว่า GB โดย 1 GB มีค่าเท่ากับ 1,073,741,824 หรือ (1,024  x 1,024 x 1,024)
เทราไบต์ (Terabyte) ใช้ย่อว่า TB โดย 1 เทราไบต์จะเท่ากับ 1,099,511,627,776 หรือ (1024 x 1024 x 1024 x 1024) บิต (Bit) Bin
Bit
Single Binary Digit (1 or 0)
Byte
8 bits
Kilobyte (KB)
1,024 Bytes
Megabyte (MB)
1,024 Kilobytes
Gigabyte (GB)
1,024 Megabytes
Terabyte (TB)
1,024 Gigabytes
Petabyte (PB)
1,024 Terabytes
Exabyte (EB)
1,024 Petabytes
มิลลิเซกันด์ (Millisecond) หรือ 1 ส่วนพันวินาที ใช้วัดเวลาเฉลี่ยในการเข้าถึงข้อมูลของฮาร์ดดิสก์(Access Time)               เวลา 
                 ไมโครเซกันด์ (Microsecond) หรือ 1 ส่วนล้านวินาที               
                 นาโนเซกันด์ (Nanosecond) หรือ 1 ส่วนพันล้านวินาที ใช้วัดความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลใน
หน่วยความจำหลัก               
                 พิโคเซกันด์ (Picosecond) หรือ 1 ส่วนล้านล้านวินาที มักใช้วัดรอบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ๆ
ความเร็ว               
                 เฮิรตซ์ (Hz : Hertz) หรือ รอบต่อวินาที มักใช้ในการวัดรอบการทำงานของนาฬิกาของ Processorหรือความเร็วของ Bus               

                 มิปส์ (MIPS : Millions of Instructions Per Second) มักใช้วัดความเร็วในการประมวลผลเครื่องคอมพิวเตอร์  (คำสั่งต่อวินาที)
prefix
[n.] คำที่เติมหน้าชื่อบุคคล เช่น นาย มิสเตอร์
[n.] เติม (พยางค์, ข้อความ, คำ) เข้าไปข้างหน้า, อุปสรรค
[n.] คำที่เติมหน้าชื่อบุคคล เช่น นาย มิสเตอร์
[n.] เติม (พยางค์, ข้อความ, คำ) เข้าไปข้างหน้า, อุปสรรค
คำว่า prefix นั้น ตัวมันเองมาจากคำว่า pre- ที่แปลว่า "ก่อน"
มารวมกับคำว่า fix ซึ่งในทางภาษาศาสตร์จะถือว่าคำนี้เป็น base หรือเป็นคำหลักครับ
ก็เลยแปลว่า คำที่ใช้เติมไปด้านหน้า นั่นเอง
Prefix มันจะมาใน 2 รูปแบบ
1.) prefix มันจะโดดใส่คำอื่นๆที่มีอยู่ แล้วทำให้ความหมายเปลี่ยน
ประเภทนี้มักจะแยกคำออกมาได้ครับ เช่น inactive = in + active
2.) คำศัพท์คำนั้น มี prefix แฝงอยู่แต่แรกแล้ว
ซึ่งมักจะมีความหมายตาม prefix ที่แฝงอยู่เหมือนกันครับ
แบบที่สองนี้จะแยกคำไม่ได้ เช่น submerge
prefix ต่างๆที่ผมนำมาในตอนนี้ เป็น prefix ที่เราจะเจอได้บ่อยๆ
และมีความหมายหลักๆที่ใช้กัน นั่นแปลว่า.. prefix 1 ชนิด อาจมีได้มากกว่า
หนึ่งความหมายครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น